ปัญหาและที่มา
ในช่วงเดือน มี.ค. - ต้นเดือน พ.ค.ของทุกปี (ซึ่งจะเป็นช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย)บริเวณประเทศไทยตอนบนจะได้รับผลกระทบจะเกิดปรากฏการณ์พายุฤดูร้อน โดยเกิดฝนฟ้าคะนองรุนแรงร่วมกับลูกเห็บและลมกระโชกแรงกับมีฟ้าผ่าส่งผลกระทบโดยตรงต่อการปฏิบัติงาน และสิ่งปลูกสร้างรวมถึงยุทโธปกรณ์ของหน่วยงานของ ทร.ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ และประชาชนทั่วไปที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของศบภ.ทร. โดยเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 จังหวัด เชียงใหม่ ประสบปัญหาสภาพอากาศซึ่งลักษณะของการเกิดพายุฤดูร้อนจะไม่เหมือนกับการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อนที่สามารถเฝ้าสังเกตการเคลื่อนตัวได้ล่วงหน้า ตั้งแต่จุดกำเนิดในท้องทะเลตลอดจนเส้นทางการเคลื่อนตัวของพายุหมุนเขตร้อนแต่การเกิดพายุฤดูร้อนนั้นในแต่ละครั้ง จากประเด็นปัญหาดังกล่าวจะเห็นได้ว่าจะไม่มีการแจ้งเตือนที่สังเกตได้จากการเปลี่ยนแปลงของสารประกอบอุตุนิยมวิทยาบนแผนที่อากาศผิวพื้น โดยปกติการเกิดพายุฤดูร้อนนั้น สภาพอากาศในช่วงเช้าของวันเกิดเหตุ ลักษณะทั่วไปอาจจะมีลักษณะอากาศร้อนกับท้องฟ้าโปร่งแต่จะมีการเปลี่ยนแปลงของลักษณะอากาศในช่วงระยะเวลาสั้นๆในช่วงเวลาบ่ายเป็นต้นไป
ปัญหาดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อด้านสภาพอากาศในการดำเนินชีวิต ทำให้คณะผู้วิจัยตระหนักถึงปัญหาและความสำคัญต่อด้านสภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีการพัฒนาระบบสถานีตรวจอากาศ เพื่อสนับสนุนการจัดการเฝ้าระวังพายุฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงอาจมีลูกเห็บตกร่วมด้วยในบางครั้ง จะสามารถเฝ้าติดตามระบบสถานีตรวจอากาศตลอดการใช้งาน โดยทดลองใช้ในพื้นที่ วิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่
กลับไปหน้าหลัก











